การรักษารากฟันแตกต่างจากการถอนฟันอย่างไร
การรักษารากฟัน
ถือเป็นวิธีการเก็บรักษาฟันที่เกิดการผุมานาน จนทะลุเข้าสู่โพรงประสาทฟัน โดยที่เราไม่ต้องถอนฟันเพื่อใส่ฟันปลอม และวันนี้ Seasky Dental Clinic จะมากอธิบายสาเหตุและวิธีการรักษารากฟัน
การรัษารากฟันคืออะไร
การรักษารากฟัน คือ การรักษาฟันที่ติดเชื้ออักเสบ จากฟันผุทะลุไปถึงโพรงประสาทฟัน โดยการกำจัดเนื้อเยื่อในคลองรากฟัน ร่วมกับการทำความสะอาดให้ปราศจากเชื้อโรค จากนั้นจึงอุดปิดคลองรากฟัน และบูรณะตัวฟัน ด้วยการทำเดือยฟัน และครอบฟันเพื่อความแข็งแรง และสวยงาม ทำให้ฟันกลับมาใช้งานได้ตามปกติ
สาเหตุที่ต้องทำการรักษารากฟัน
สาเหตุที่เราจำเป็นต้องรักษารากฟันมีดังนี้
1. มีฟันที่ผุมานาน และไม่ได้รับการรักษา จนในที่สุดผุลึกมาก และทะลุโพรงประสาทฟัน
2. ฟันแตก ฟันหัก ฟันร้าว
3. ฟันสึกจนทะลุโพรงประสาทฟัน
4. ฟันที่ได้รับแรงกระแทกอย่างแรงจากอุบัติเหตุ
สาเหตุเหล่านี้ ทำให้เชื้อโรคเข้าไปในโพรงประสาทฟัน และทำให้เกิดการอักเสบ เกิดหนองที่ปลายรากฟัน เนื่องจากการติดเชื้อ
ดังนั้น ฟันที่ต้องรักษารากฟัน คือ ฟันที่มีเชื้อโรคเข้าไปในโพรงประสาทฟันและทำให้เกิดการติดเชื้อของเนื้อเยื่อในโพรงประสาทฟัน ตัวอย่าง ได้แก่ ฟันที่ผุลึกมากจนทะลุโพรงประสาทฟัน ฟันที่แตกหัก ร้าว หรือสึกจนทะลุโพรงประสาทฟัน ฟันตาย รวมถึงฟันที่ผ่านการเกิดอุบัติเหตุ และได้รับแรงกระแทก
การรักษารากฟันแตกต่างจากการถอนฟันอย่างไร
การรักษารากฟันสามารถเก็บรักษาฟันเดิมของคุณเอาไว้ใช้งานได้ต่อไปได้ โดยดีกว่าการถอนฟันแล้วเลือกวิธีการใส่ฟันปลอม เพราะฟันที่รักษารากแล้วจะมีคุณสมบัติเหมือนฟันในปากซี่อื่นๆ คือ มีเบ้ากระดูกยึดให้ฟันแน่นมั่นคงแข็งแรง และให้ความรู้สึกที่ดีกว่าการใส่ฟันปลอม สามารถใช้งานได้ สะดวกเป็นธรรมชาติ
ลักษณะอาการที่จำเป็นต้องรักษารากฟัน
1. เสียวฟัน ปวกฟันขึ้นมาเอง
2. รู้สึกเสียวฟันเวลาทานของร้อนเย็น
3. มีตุ่มวบริเวณเหงือก และอาจทำให้บวมลามมาถึงใบหน้า
4. ฟันเปลี่ยนสีคล้ำขึ้น